วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

วันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

บันทึกการเรียนการสอน ครั้งที่ 15

-อาจารย์สอน เด็กที่มีความบกพร่องในการเรียนรู้ (LD)
การดูแลให้ความช่วยเหลือ
-สร้างความภาคภูมิใจในตนเองให้เกิดกับเด็ก
-มองหาจุดดี จุดแข็งของเด็ก และให้คำชมอยู่เสมอ
-ให้การเสริมแรงทางบวก
-รู้จักลักษณะของเด็กที่เป็นสัญญาณเตือน
-วางแผนการจัดทำแฟ้มข้อมูลเกี่้ยวกับการเรียนรู้ของเด็ก
-สังเกตติดตามความสามารถ และการมีส่วนร่วมในชั้นเรียนของเด็ก 
-IEP
การรักษาด้วยยา
-Ritalin
-Dexedrine
-Cylert
หน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือเด็กที่มีความต้องการพิเศษ
-สำนักงานบริหารการศึกษาพิเศษ(สศศ)
-โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์
-ศูนย์การศึกษาพิเศษ(Early Intervention . EI)
-โรงเรียนเฉพาะความพิการ
-สถาบันราชานุกูล

อาจารย์แจกรางวัลคนที่ได้ตัวปั๊มเยอะ

อาจารย์ให้ดูวิดีโอ เรื่องเรียนอย่างไรในศุนย์การศึกษาพิเศษ

บันทึกการเรียนการสอนครั้งที่ 14

-อาจารย์สอนเรื่องการเลี้ยงดูเด็ก ,Autistic,เด็กสมธิสั้น

การเลี้ยงดูในช่วง 3เดือนแรก 
-ยอมรับความจริง
-เด็กกลุ่มอาการดาวน์มีพัฒนาการเป็นขั้นตอน เช่นเดียวกับ เด็กทั่วไป
-ให้ความรัก ความอบอุ่น
-การตรวจภายใน ตรวจหามะเร็งปากมดลูก  และเต้านม
-การคุมกำเนิด และการทำหมัน
-การสอนเพศศึกษา
-ตรวจหัวใจ
การส่งเสริมพัฒนาการ
-พัฒนาทักษะด้านต่างๆ เช่น คณิตศาสตร์ และภาษา
-สามารถปรับตัว และช่วยเหลือตนเองได้มากขึ้น
-สังคมยอมรับมากขึ้น ไปเรียนร่วม หรือเรียนรวมได้
-ลดปัญหาพฤติกรรม
-คุณภาพชีวิตดีขึ้น สามารถแก้ไขปัญหา และทำงานได้ดีขึ้น
Autistic
การปรับตัวพฤติกรรม และฝึกทักษะทางสังคม
-เพิ่มพฤติกรรมที่เหมาะสม และ ลดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
-การให้เสริมแรง
การฝึกพูด
-โดยเฉพาะในรายที่มีพัฒนาการด้านภาษา และการสื่อความหมายล่าช้า
-ถ้าเด็กพูดได้เร็ว โอกาสที่จะมีพัฒนาการทางภาษาใกล้เคียงปกติ จะเพิ่มมากขึ้น
-ลดการใช้ภาษาที่ไม่เหมาะสม
-ช่วยลดพฤติกรรมก้าวร้าวที่เกิดจากการไม่สามารถสื่อสารความต้องการได้
-การสื่อความหมายทดแทน (AAC)
การสื่อความหมายทดแทน ( Augmentative and Alternative Communication ; AAC)
-การรับรู้ผ่านการมอง (Visual Strategies)
-โปรแกรมแลกเปลี่ยนภาพเพื่อการสื่อสาร (Picture Exchange Communication System ; PECS)
-เครื่องโอภา (Communication Devices)
-โปรแกรมปราศรัย
การฟื้นฟูสมรรถภาพทางสังคม
-ทักษะในชีวิตประจำวัน และการฝึกฝนทักษะสังคม
-ให้เด็กสามารถทำได้ด้วยตนเองเต็มความสามารถ โดยต้องการความช่วยเหลือน้อยที่สุด
การรักษาด้วยยา
-Methylphenidate (Ritalin) ช่วยลดอาการไม่นิ่ง/ซน/หุนหันพลันแล่น/ขาดสมาธิ
-Risperidone /Haloperidol ช่วยลดอาการอยู่ไม่นิ่ง หงุดหงิด หุนหันพลันแล่น พฤติกรรมซ้ำๆ พฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง
-ยาในกลุ่ม Anticonvulsant (ยากันชัก) ใช้ได้ผลในรายที่มีพฤติกรรมทำร้ายตัวเอง
การสงเสริมพัฒนาการ
-ให้เด็กมีพัฒนาการเป็นไปตามวัย
-เน้นในเรื่องการมองสบตา การมีสมาธิ การฟัง และทำตามคำสั่ง
-ส่งเสริมพัฒนาการด้สนอื่นๆที่ล่าช้าควบคู่กับการพัฒนาทักษะด้านการสื่อสาร สังคม และการปรับพฤติกรรม
การฟื้นฟูสมรรถภาพทางการศึกษา
-เพิ่มทักษะพื้นฐานด้านสังคม การสื่อสาร และทักษะทางความคิด
-แผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล
-โรงเรียนเรียนร่วม ห้องเรียนคู่ขนาน
การบำบัดทางเลือก
-การสื่อความหมายทดแทน (AAC)
- ศิลปกรรมบำบัด(Art therapy)
-ดนตรีบำบัด (Music Therapy)
-การฝังเข็ม(Acupuncture)
-การบำบัดด้วยสัตว์(Animal Therapy)
ราชานุกูล
-สถาบันราชานุกูล
-กรมสุขภาพจิต
-กระทรวงสาธารณสุข
กิจกรรมบำบัดในเด็กสมาธิสั้น
พ่อแม่
-ลูกต้องพัฒนาได้
-เรารักลูกของเรา ไม่ว่าเขาจะเป็นแอย่างไร
-ถ้าเราไม่รัก แล้วใครจะรัก
-หยุดไม่ได้
-ดูแลจิตใจ และร่างกายของตนเองให้เข้มแข็ง
-ไม่กล่าวโทษตนเอง หรือคู่สมรส
-ควรหันหน้าปรึกษากันในครอบครัว
สาเหตุของการเกิดอาการสมาธิสั้นในเด็ก
1.การเสียสมดุลย์ของระดับสารเคมมีในสมอง
2.พันธุกรรม
3.เด็กคลอดยาก ขาดอ๊อกซิเจน
4.ติดเชื้อหลังคลอด
อาการของเด็กสมาธิสั้น
-สมาธิไม่ดี
-ซน ไม่อยู่นิ่ง
-ยับยั้งตนเองไม่ได้






บันทึกการเรียนการสอน ครั้งที13

-ไม่มีการเรียนการสอน  เนื่องจาก  สอบกลางภาค  เก็บคะแนน


วันเสาร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2557


บันทึกการเรียนการสอนครั้งที่ 12

-อาจารย์แจกเอกสาร ประกอบการเรียน 
-อาจารย์สอนเรื่อง พัฒนาการของเด็กที่มีความต้องการพิเศษ

พัฒนาการ คือ การเปลี่ยนแปลงในด้านการทำหน้าที่ และวุฒิภาวะ ของอวัยวะต่างๆ รวมทั้งตัวบุคคล ทำให้สามารถทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการ  คือ เด็กที่มีพัฒนาการล่าช้ากว่าเด็กปกติในวัยเดียวกัน พัฒนาการนี้อาจจะพบเพียงด้านใดด้านหนึ่ง หลายด้าน และพัฒนาการล่าช้าในด้านหนึ่งอาจส่งผลให้พัฒนาการในด้านอื่นล่าช้า ด้วยก็ได้

ปัจจัยที่มีผลต่อพัฒนาการเด็ก
-ปัจจัยทางด้านชีวภาพ 
-ปัจจัยด้านกระบวนการคลอด
-ปัจจัยสภาพแวดล้อมหลังคลอด

สาเหตุที่ทำให้เกิดความบกพร่องทางพัฒนาการ
1.โรคพันธุกรรม มีพัฒนาการล่าช้า ตั้งแต่เกิด หรือสังเกตได้ชั่วระยะไม่นานหลังเกิดมักมีลักษณะผิดปกติแต่กำเนิดร่วมด้วย 
2.โรคระบบประสาท  มักมีอาการ หรืออาการประสาทร่วมด้วย ที่พบบ่อย อาการชัก และความตึงของกล้ามเนื้อผิดปกติ
3.การติดเชื้อ ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ เด็กมักมีน้ำหนักตัวแรกเกิดน้อย ศีรษะเล็กกว่าปกติ อาจมีม้ามโต การได้ยินบกพร่อง  และต้อกระจกร่วมด้วย นอกจากนี้การติดเชื้อรุนแรงภายหลังเกิด เช่น
สมองอักเสบ เยื้อหุ้มสมองอักเสบ 
4.ความผิดปกติเกี่ยวกับเมตาบอลึซึม ไทรอยด์ฮอร์โมนในเลือดต่ำ
5.ภาวะแทรกซ้อนระยะแรกเกิด 
6.สารเคมี 
7.การเลี้ยงดูที่ไม่เหมาะสมรวมทั้งการขาดสารอาหาร

อาการของเด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการ
1.การซักประวัติ
2.การตรวจร่างกาย
3.การสืบค้นทางห้องปฏิบัติการ
4.การประเมินพัฒนาการ

แนวทางในการดูแลรักษา
1.หาสาเหตุที่่ทำให้เกิดความบกพร่องทางพัฒนาการ
2.การตรวจค้นหาความผิดปกติร่วม
3.การรักษาสาเหตุโดยตรง
4.การส่งเสริมพัฒนาการ
5.ให้คำปรึกษากับครอบครัว

สรุปขั้นตอนในการดูแลเด็กที่มีความบกพร่องทางพัฒนาการ
1.การตรวจคัดกรองพัฒนาการ Developmental Screening
2.การตรวจประเมินพัฒนาการ   Developmental Assessment
3.การให้การวินิจฉัย และหาสาเหตุ Diagnosis
4.การให้การรักษา และส่งเสริมพัฒนาการ Treatment and Early Intervention
5.การติดตาม และ ประเมินผลการรักษาเป็นระยะ Follow Up and Evaluation

-อาจารย์ให้ทำกิจกรรม วาดรุปตามที่อาจารย์ให้มา
-กลุ่มดิฉันนำเสนองาน เรื่อง ดาวน์ซินโดรม

ดาวน์ซินโดรม คือ เด็กที่มีภาวะปัญญาอ่อน มีสาเหตุมาจาก โคโมโซม หรือการผิดปกติทางพันธุกรรม

สาเหตุของเด็กดาวซินโดรม
-โครมโมโซมที่ 21 เกินมา 1แท่ง พบได้ร้อยละ 95%
-โคโมโซมคู่ที่14 มายึดติดกับคู่ที่ 21 พบได้ร้อยละ 4
-มีโครโมโซม ทั้งปกติ ในคนเดียวกันได้พบ ร้อยละ 1

ลักษณะของเด็กดาวน์ซินโดรม
-ศรีษะเล็ก หน้าแบน สันจมูกแบน ตาเล็กเฉียงครึ่ง หูเล็ก ช่องปากเล็ก เพดานปากสูง คอ แขน ขาสั้น มือแบนกว้าง มือ นิ้วมือสั้น
-กล้ามเนื้ออ่อนนิ่ม พัฒนาการเคลื่อนไหวช้า
-ผิวหนังแห้งแตกง่าย มีเลือดมาเลี้ยงน้อย





วันศุกร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2557


บันทึกการเรียนการสอนครั้งที่ 11

-ไม่มีการเรียนการสอน เนื่องจากการเดินของนักศึกษาบางส่วน เดินทางไม่สะดวก (ติดม็อป กปปส.)

บันทึกการเรียนการสอน ครั้งที่ 10

-อาจารย์แจกใบประเมิน เพื่อให้ประเมินเพื่อน แต่ละกลุ่ม โดยในวันนี้เพื่อนนำเสนอ ด้วยกัน 3กลุ่ม 

กลุ่มที่ 1 คือ ความบกพร่องทางสมองพิการ ( C.P.) คือเด็กที่สมองพิการ (Cerebral Palsy) C.P.ไม่ใช่เป็นโรคเฉพาะ แต่เป็นโรคที่คงที่ ซึ่งมีผลให้การประสานงานของการทำงานของกล้ามเนื้อบกพร่อง ส่งผลให้ ร่างกายและ กล้ามเนื้อ ทรงตัวผิดปกติ เช่นการเกร็งของใบหน้า ลิ้น ลำตัว แขน ขา

กลุ่มเพื่อนนำเสนอความบกพร่องทางสมองพิการ




กลุ่มที่ 2 ความบกพร่องทางการเรียนรู้( LD.) เป็นโรคที่เด็กอยู่ในภาวะบกพร่องการเรียนรู้ เด็กวัยนี้จะเก่งกว่าปกติ หรืออยู่ในระดับปกติ แต่การเรียนรู้จะช้ากว่าเด็กปกติ
สาเหตุที่เกิด 
-พ่อแม่ ญาติพี่น้อง มีประวัติเป็นโรคนี้
-แม่มีอายุน้อยมาก
-น้ำหนักตัวเด็กน้อยมาก
-เด็กมีภาวะบาดเจ็บทางสมองก่อนคลอด หรือหลังคลอด กำหนด
-สภาพแวดล้อมเป็นมลพิษ

กลุ่มเพื่อนำเสนอ ความบกพร่องทางการเรียนรู้

กลุ่มที่ 3 เด็กสมาธิสั้น  คือ เด็กที่ไม่สามารถ นั่งวางแผน  นั่งทำงานให้สำเร็จ ตามเป้าหมายได้ ไม่สนใจสิ่งแวดล้อม ไม่สามารถทำงานที่ใช้ทักษะได้ 
สาเหตุที่เกิด
สมองบางส่วนทำงานน้อยกว่าปกติ  และยังพบอีกว่า แม่ที่สูบบุหรี่ ดื่มสุรา ในระหว่างตั้งครรภ์ อาจจะมีผลให้สมองของเด็กมีปัญหาในการพัฒนา นอกจากนี้ยังพบว่าสารตะกั่ว น่าจะทำให้เกิดโรคนี้